ภาษาซี (C Language) เป็นภาษาหนึ่งสำหรับเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ พัฒนาขึ้นโดยนายเดนนิส ริทชี่ (Dennis Ritche) ในปี ค.ศ. 1972 เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ (Unix Operating System
ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ Turbo c/c++ Version 3.0
Turbo c/c++ Version 3.0 เป็นโปรแกรมเขียนภาษา C โดยบอร์แลนด์ ซอฟต์แวร์ คอร์ปอเรชั่น (Borland Software Corporation) ซึ่งเพรียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือต่าง ๆ มากมายอาทิเช่น โปรแกรมเรียบเรียงข้อความ และโปรแกรมตรวจสอบและแปลคำสั่ง
รายละเอียดเมนูภาษาซี
เมนูหลัก (Main Menu) ประกอบด้วย File Edit Search Run Compile Debug Project Option Window Help
File เก็บรวมรวมคำสั่งเกี่ยวกับการเปิด-ปิดไฟล์ การบันทึกไฟล์ การออกจากโปรแกรม
Edit การแก้ไขโปรแกรม การสำเนาหรือการย้ายข้อความที่ปรากฏบนเอดิเตอร์
Search ค้นหาคำหรือข้อความที่เขียนในโปรแกรม ตลอดจนการแทนที่คำ
Run รันโปรแกรมที่เขียนด้วยคำสั่งแบบต่าง ๆ
Compile แปลข้อมูลของโปรแกรมที่เป็น Source file ให้เป็น Object File
Debug ตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรม
Project ใช้ในการระบุไฟล์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องนำมาใช้ในตัวโปรแกรมและ Project ที่ทำงานอยู่
Option กำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ของคอมไพเลอร์เช้น Directories Compiler เป็นต้น
Window จัดการเกี่ยวกับหน้าต่างที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม
Help ขอความช่วยเหลือหรือรายละเอียดเกี่ยวกับโปรแกรมในลักษณะต่าง ๆ
ตัวแปรในภาษาซี
ตัวแปร (Variable) คือ การจองพื้นที่ในหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์สำหรับเก็บข้อมูลที่ต้องใช้ในการทำงานของโปรแกรม โดยมีการตั้งชื่อเรียกหน่วยความจำในตำแหน่งนั้นด้วย เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้ข้อมูล ถ้าจะใช้ข้อมูลใดก็ให้เรียกผ่านชื่อของตัวแปรที่เก็บเอาไว้
ชนิดของข้อมูล
ภาษาซีเป็นอีกภาษาหนึ่งที่มีชนิดของข้อมูลให้ใช้งานหลายอย่างด้วยกัน ซึ่งชนิดของข้อมูลแต่ละอย่างมีขนาดเนื้อที่ที่ใช้ในหน่วยความจำที่แตกต่างกัน และเนื่องจากการที่มีขนาดที่แตกต่างกันไป ดังนั้นในการเลือกใช้งานประเภทข้อมูลก็ควรจะคำนึงถึงความจำเป็นในการใช้งานด้วย สำหรับประเภทของข้อมูลมีดังนี้คือ
1. ข้อมูลชนิดตัวอักษร (Character) คือข้อมูลที่เป็นรหัสแทนตัวอักษรหรือค่าจำนวนเต็มได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข และกลุ่มตัวอักขระพิเศษใช้พื้นที่ในการเก็บข้อมูล 1 ไบต์
2. ข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม (Integer) คือข้อมูลที่เป็นเลขจำนวนเต็ม ได้แก่ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ ศูนย์ ใช้พื้นที่ในการเก็บ 2 ไบต์
3. ข้อมูลชนิดจำนวนเต็มที่มีขนาด 2 เท่า (Long Integer) คือข้อมูลที่มีเลขเป็นจำนวนเต็ม ใช้พื้นที่ 4 ไบต์
4. ข้อมูลชนิดเลขทศนิยม (Float) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ขนาด 4 ไบต์
5. ข้อมูลชนิดเลขทศนิยมอย่างละเอียด (Double) คือข้อมูลที่เป็นเลขทศนิยม ใช้พื้นที่ในการเก็บ 8 ไบต์
ชนิด
|
ขนาดความกว้าง
|
ช่วงของค่า
|
การใช้งาน
|
Char |
8 บิต
|
ASCII character (-128 ถึง 127) | เก็บข้อมูลชนิดอักขระ |
Unsignedchar |
8 บิต
|
0-255 | เก็บข้อมูลอักขระแบบไม่คิดเครื่องหมาย |
Int |
16 บิต
|
-32768 ถึง 32767 | เก็บข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม |
long |
32 บิต
|
-2147483648 ถึง 2147483649 | เก็บข้อมูลชนิดจำนวนเต็มแบบยาว |
Float |
32 บิต
|
3.4E-38 ถึง 3.4E+38 หรือ ทศนิยม 6 |
เก็บข้อมูลชนิดเลขทศนิยม |
Double |
64 บิต
|
1.7E-308 ถึง 1.7E+308 หรือ ทศนิยม 12 | เก็บข้อมูลชนิดเลขทศนิยม |
Unsigned int |
16 บิต
|
0 ถึง 65535 | เก็บข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม ไม่คิดเครื่องหมาย |
Unsigned long |
32 บิต
|
0 ถึง 4294967296 | เก็บข้อมูลชนิดจำนวนเต็มแบบยาว ไม่คิดเครื่องหมาย |
รูปแบบในการประกาศตัวแปรในภาษา C
การสร้าวตัวแปรขึ้นมาใช้งานจะเรียกว่า การประกาศตัวแปร (Variable Declaration) โดยเขียนคำสั่งให้ถูกต้องตามแบบการประกาศตัวแปร แสดงดังนี้
type name;
type : ชนิดของตัวแปร
name : ชื่อของตัวแปร ซึ่งต้องตั้งให้ถูกต้องตามหลักของภาษา C
การเขียนคำสั่งเพื่อประกาศตัวแปร
ส่วนใหญ่แล้วจะเขียนไว้ในส่วนหัวของโปรแกรมก่อนฟังก์ชัน main ซึ่งการเขียนไว้ในตำแหน่งดังกล่าว จะทำให้ตัวแปรเหล่านั้นสามารถเรียกใช้จากที่ใดก็ได้ในโปรแกรม ดังตัวอย่าง
#include <stdio.h>
int num; สร้างตัวแปรชื่อ num เพื่อเก็บข้อมูลชนิดจำนวนเต็ม
float y; สร้างตัวแปรชื่อ y เพื่อเก็บข้อมูลชนิดเลขทศนิยม
char n; สร้างตัวแปรชื่อ n เพื่อเก็บข้อมูลชนิดตัวอักขระ
void main()
{
printf(“Enter number : “)
scanf(“%d”,&num);
printf(“Enter name : “);
scanf(“%f”,&n);
printf(“Thank you”);
}
หลักการตั้งชื่อตัวแปร
ในการประกาศสร้างตัวแปรต้องมีการกำหนดชื่อ ซึ่งชื่อนั้นไม่ใช่ว่าจะตั้งให้สื่อความหมายถึงข้อมูลที่เก็บอย่างเดียว โดยไม่คำนึงถึงอย่างอื่น เนื่องจากภาษา C มีข้อกำหนดในการตั้งชื่อตัวแปรเอาไว้ แล้วถ้าตั้งชื่อผิดหลักการเหล่านี้ โปรแกรมจะไม่สามารถทำงานได้ หลักการตั้งชื่อตัวแปรในภาษา C แสดงไว้ดังนี้
1. ต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A-Z หรือ a-z หรือเครื่องหมาย _(Underscore) เท่านั้น
2. ภายในชื่อตัวแปรสามารถใช้ตัวอักษร A-Z หรือ a-z หรือตัวเลข0-9 หรือเครื่องหมาย _
3. ภายในชื่อห้ามเว้นชื่องว่าง หรือใช้สัญลักษณ์นอกเหนือจากข้อ 2
4. ตัวอักษรเลขหรือใหญ่มีความหมายแตกต่างกัน
5. ห้ามตั้งชื่อซ้ำกับคำสงวน (Reserved Word) ดังนี้
auto
|
default
|
float
|
register
|
struct
|
volatile
|
break
|
do
|
far
|
return
|
switch
|
while
|
case
|
double
|
goto
|
short
|
typedef
|
char
|
else
|
if
|
signed
|
union
|
const
|
enum
|
int
|
sizeof
|
unsigned
|
continue
|
extern
|
long
|
static
|
void
|
|
|
|
ตัวอย่างการตั้งชื่อตัวแปรในภาษา C ทั้งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้องตามหลักการ แสดงดังนี้
bath_room | ถูกต้อง |
n-sync | ผิดหลักการ เนื่องจากมีเครื่องหมาย – ปรากฎในชื่อ |
108dots | ผิดหลักการ เนื่องจากขึ้นต้นด้วยตัวเลข |
Year# | ผิดหลักการ เนื่องจากมีเครื่องหมาย # อยู่ในชื่อ |
_good | ถูกต้อง |
goto | ผิดหลักการ เนื่องจากเป็นคำสงวน |
work | ถูกต้อง |
break | ผิดหลักการ เนื่องจากเป็นคำสงวน |
ตัวแปรสำหรับข้อความ
ในภาษา C ไม่มีการกำหนดชนิดของตัวแปรสำหรับข้อความโดยตรง แต่จะใช้การกำหนดชนิดของตัวแปรอักขระ (char) ร่วมกับการกำหนดขนาดแทน และจะเรียกตัวแปรสำหรับเก้บข้อความว่า ตัวแปรสตริง (string) รูปแบบการประกาศตัวแปรสตริงแสดงได้ดังนี้
char name[n] = “str”;
name ชื่อของตัวแปร
n ขนาดของข้อความ หรือจำนวนอักขระในข้อความ
str ข้อความเริ่มต้นที่จะกำหนดให้กับตัวแปรซึ่งต้องเขียนไว้ภายในเครื่องหมาย ” ”
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรสำหรับเก็บข้อความ แสดงได้ดังนี้
char name[5] = “kwan” ; สร้างตัวแปร name สำหรับเก็บ ข้อความ kwan ซึ่งมี 4 ตัวอักษร ดังนั้น name ต้องมีขนาด 5
char year[5] = “2549”; สร้างตัวแปร year สำหรับเก็บ ข้อความ 2549 ซึ่งมี 4 ตัวอักษร ดังนั้น year ต้องมีขนาด 5
char product_id[4] = “A01”; สร้างตัวแปร product_id สำหรับเก็บ ข้อความ A01 ซึ่งมี 3 ตัวอักษร ดังนั้น product_id ต้องมีขนาด 4
เครื่องหมายและการดำเนินการในภาษา C
การดำเนินการในการเขียนโปรแกรมภาษา C มีอยู่ 3 ประเภท คือ การคำนวณทางคณิตศาสตร์ การดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และการเปรียบเทียบซึ่งการดำเนินการแต่ละประเภทจะมีเครื่องหมายที่ต้องใช้เพื่อเขียนคำสั่งสำหรับการดำเนินการประเภทนั้น ๆ ดังรายละเอียด
เครื่องหมายการคำนวณทางคณิตศาสตร์
เครื่องหมายที่ใช้สำหรับการคำนวณทางคณิตศาสตร์ใช้ภาษา C สรุปดังนี้
เครื่องหมาย
|
ความหมาย
|
ตัวอย่าง
|
+
|
บวก
|
3+2 การบวกเลข 3 บวกกับ 2 ได้ผลลัพธ์คือ 5 |
–
|
ลบ
|
3 – 2 การลบเลข 3 ลบกับ 2 ได้ผลลัพธ์คือ 1 |
*
|
คูณ
|
2*3 การคูณเลข 3 บวกกับ 2 ได้ผลลัพธ์คือ 6 |
/
|
หาร
|
15/2 การหาร 15 หารกับ 2 ได้ผลลัพธ์คือ 7 |
%
|
หารเอาเศษ
|
15%2การหารเอาเศษ 15 หารกับ 2 ได้ผลลัพธ์คือ 1 |
++
|
เพิ่มค่าขึ้น 1 โดย ++a จะเพิ่มค่าของ a ขึ้น 1 ก่อนแล้วจึงนำค่าของ a ไปใช้ |
b=a++; จะมีความหมายเทียบเท่ากับ 2 บรรทัดต่อไปนี้ b=a; a=a+1; b=++a; |
—
|
ลดค่า 1 โดย a– จะนำค่าของ a ไปใช้ก่อน แล้วจึงลดค่าของ a ลง 1 –a จะลดค่าของ a ลง 1 ก่อน แล้วจึงนำค่าของ a ไปใช้ |
ิb=a–; b=–a; |
ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ
ใช้เปรียบเทียบค่า 2 ค่าเพื่อแสดงการเลือก ซึ่งโปรแกรมโดยทั่วไปใช้ในการทดสอบเงื่อนไขตามที่กำหนด
การเปรียบเทียบโดยการเท่ากันของ 2 ค่าจะใช้เครื่องหมาย ==
เครื่องหมาย
|
ความหมาย
|
ตัวอย่าง
|
>
|
มากกว่า
|
a > b a มากกว่า b |
>==
|
มากกว่าหรือเท่ากับ
|
a >= b a มากกว่าหรือเท่ากับ b |
<
|
น้อยกว่า
|
a < b a น้อยกว่า b |
<==
|
น้อยกว่าหรือเท่ากับ
|
a <= b a น้อยกว่าหรือเท่ากับ b |
==
|
เท่ากับ
|
a == b a เท่ากับ b |
!=
|
ไม่เท่ากับ
|
a != b a ไม่เท่ากับ b |
ความหมาย
การดำเนินการเปรียบเทียบค่าทางตรรกะ( และ หรือ ไม่)
เครื่องหมาย
|
ความหมาย
|
ตัวอย่าง
|
&&
|
และ
|
x < 60 && x > 50 กำหนดให้ x มีค่าในช่วง 50 ถึง 60 |
||
|
หรือ
|
x == 10 || x == 15 กำหนดให้ x มีค่าเท่ากับตัวเลข 2 ค่า คือ 10 หรือ 15 |
!
|
ไม่
|
x = 10 !x กำหนดให้ x ไม่เท่ากับ 10 |
การเขียนนิพจน์ในภาษา C
นิพจน์ในภาษา C ก็คือ การนำข้อมูลและตัวแปรในภาษา C มาดำเนินการด้วยเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ตรรกศาสตร์ หรือเครื่องหมายเปรียบเทียบในภาษา C เป็นตัวสั่งงาน ดังตัวอย่าง
ลำดับความสำคัญของเครื่องหมาย
ส่วนใหญ่นิพจน์ที่เขียนขึ้นในโปรแกรมมักจะซับซ้อน มีการดำเนินการหลายอย่างปะปนอยู่ภายในนิพจน์เดียวกัน
ลำดับความสำคัญ |
ลำดับความสำคัญจากสูงไปต่ำ
|
1
|
( )
|
2
|
!,++,- –
|
3
|
*,/,%
|
4
|
+,-
|
5
|
<,<=,>,>=
|
6
|
= =,!=
|
7
|
&&
|
8
|
||
|
9
|
*=,/=,%=,+=,-=
|
ตัวอย่างการทำงานของโอเปอเรเตอร์
จงหาค่าของนิพจน์ 8 + 7 * 6
วิธีทำ
1. ให้สังเกตที่ตัวโอเปอเรเตอร์ก่อนเสมอว่ามีโอเปอเรเตอร์อะไรบ้าง ในที่นี้มี + และ *
2. ทำการไล่ลำดับความสำคัญของโอเปอเรเตอร์ทั้งหมดเปรียบเทียบกัน จากตัวที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดไปยังตัวที่มีลำดับสำคับต่ำสุด
ลำดับความสำคัญจากสูงไปต่ำ
|
โอเปอเรเตอร์
|
|
*
|
+
|
3. จากข้อ 2 จะได้ลำดับการทำงานเป็นดังนี้
ขั้นที่ 1 7 * 6 = 42
ื ขั้นที่ 2 8 + ค่าที่ได้จากขั้นที่ 1
= 8 + 42
= 50
ดังนั้น 8 + 7 * 6 = 50
จงหานิพจน์ต่อไปนี้
x*y – 20%z
|
|
1)
|
x * y |
2)
|
20%z |
3)
|
1) – 2) |
(a – b)*10/c && d + 5
|
|
1)
|
a – b |
2)
|
1)*10 |
3)
|
2)/c |
4)
|
d+5 |
5)
|
3) && 4) |
(a + b) * 4 = = c%d(e+10)
|
|
1)
|
a + b |
2)
|
e + 10 |
3)
|
1) * 4 |
4)
|
d * 2) |
5)
|
c %4) |
6)
|
3) = = 5) |
การแสดงผลและการรับข้อมูล
แสดงผลออกทางหน้าจอ
การทำงานพื้นฐานที่สึดหรือเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของทุกโปรแกรมคือ การแสดงผลข้อมูลออกทางจอภาพ โดยในภาษา C นั้น การแสดงผลข้อมูลออกทางจอสามารถทำได้ดังนี้
คำสั่ง printf
คำสั่ง printf ถือได้ว่าเป็นคำสั่งพื้นฐานที่สุดในการแสดงผลข้อมูลทุกชนิดออกทางหน้าจอไม่ว่าจะเป็นจำนวนเต็ม int ทศนิยม float ข้อความ string หรืออักขระ นอกจากนี้คำสั่งยังมีความยืดหยุ่นสูง โดยเราสามารถกำหนดหรือจัดรูปแบบการแสดงผลให้มีระเบียบหรือเหมาะสมตามความต้องการได้อีกด้วย
รูปแบบคำสั่ง prinft
printf (“format”,variable);
format
|
ข้อมูลที่ต้องการแสดงผลออกทางหน้าจอ โดยข้อมูลนี้ต้องเขียนไว้ในเครื่องหมาย ” ” ข้อมูลที่สามารถแสดงผลได้มีอยู่ 2 ประเภท คือ ข้อความธรรมดา และค่าที่เก็บไว้ในตัวแปร ซึ่งถ้าเป็นค่าที่เก็บไว้ในตัวแปรต้องใส่รหัสควบคุมรูปแบบให้ตรงกับชนิดของข้อมูลที่เก็บไว้ในตัวแปรนั้นด้วย
|
variable
|
ตัวแปรหรือนิพจน์ที่ต้องการนำค่าไปแสดงผลให้ตรงกับรหัสควบคุมรูปแบบที่กำหนดไว้
|
รหัสควบคุมรูปแบบการแสดงผลค่าของตัวแปรออกทางหน้าจอ แสดงได้ดังนี้
รหัสควบคุมรูปแบบ
|
การนำไปใช้งาน
|
%d
|
แสดงผลค่าของตัวแปรชนิดจำนวนเต็ม |
%u
|
แสดงผลค่าของตัวแปรชนิดจำนวนเต็มบวก |
%f
|
แสดงผลค่าของตัวแปรชนิดจำนวนทศนิยม |
%c
|
แสดงผลอักขระ 1 ตัว |
%s
|
แสดงผลข้อความ หรืออักขระมากกว่า 1 ตัว |
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง printf แสดงผลข้อความธรรมดาออกทางหน้าจอ ดังนี้
printf(“Hello Program C”); | แสดงข้อความ Hello Program C ออกทางขอภาพ |
printf(“Lampang kunlayanee school”); | แสดงข้อความ Lampang kunlayanee school ออกทางจอภาพ |
printf(“Lampang Thailand”); | แสดงข้อความ Lampang Thailand ออกทางจอภาพ |
#include <stdio.h> ผลลัพธ์โปรแกรม Lampang Kunlayanee School |
ส่วนตัวอย่างการใช้คำสั่ง printf แสดงผลจากค่าของตัวแปรหรือนิพจน์ การคำนวณออกทางหน้าจอ แสดงได้ดังนี้ โดยกำหนดให้
ตัวแปร x เก็บจำนวนเต็ม 45
printf(“total value = %d”,x); แสดงข้อความ total value = 45 ออกทางจอภาพ
แสดงผลให้เป็นระเบียบด้วยอักขระควบคุมการแสดงผล
นอกจากนี้เรายังสามารถจัดรูปแบบการแสดงผลให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น อย่างเช่นขึ้นบรรทัดใหม่ หลังแสดงข้อความ หรือเว้นระยะแท็บระหว่างข้อความ โดยใช้อักขระควบคุมการแสดงผลร่วมกับคำสั่ง printf
อักขระควบคุมการแสดงผล
|
ความหมาย
|
|
ขึ้นบรรทัดใหม่ |
|
เว้นช่องว่างเป็นระยะ 1 แท็บ (6 ตัวอักษร) |
|
กำหนดให้เคอร์เซอร์ไปอยู่ต้นบรรทัด |
|
เว้นช่องว่างเป็นระยะ 1 หน้าจอ |
|
ลบอักขระสุดท้ายออก 1 ตัว |
การนำอักขระควบคุมการแสดงผลมาใช้ เราต้องเขียนอักขระควบคุมการแสดงผลไว้ภายในเครื่องหมาย ” ” ดังตัวอย่าง
printf(“Hello … “); | แสดงข้อความ Hello … แล้วขึ้นบรรทัดใหม่ |
printf(“Hello… Lampang “); | แสดงข้อความ Hello …แล้วขึ้นบรรทัดใหม่พร้อมกับแสดงข้อความLampang จากนั้นขึ้นบรรทัดใหม่อีกครั้ง |
printf(“Num1 = %d Num2 = %f “,x,z); | แสดงข้อความ Num1 = 45 ตามด้วยการเว้นช่องว่าง 1 แท็บแล้วต่อด้วยข้อความ Num2 = 20.153 |
คำสั่งรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด
การทำงานของโปรแกรมส่วนใหญ่มักจะเป้นการเชื่อมโยงกับผู้ใช้แบบ 2 ทิศทาง คือ ทั้งภาคของการแสดงผลการทำงานออกทางหน้าจอ และภาคของการรับข้อมูลจากผู้ใช้เข้ามาทางคีย์บอร์ด เพื่อร่วมในการประมวลผลของโปรแกรม
คำสั่ง scanf()
ในภาษา C การรับข้อมูลจากคีย์บอร์ดสามารถทำได้โดยการเรียกใช้ฟังก์ชัน scanf() ซึ่งเป็นฟังก์ชันมาตรฐานสำหรับรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด โดยสามารถรับข้อมูลได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม อักขระ หรือข้อความ
รูปแบบคำสั่ง scanf()
scanf(“format”,&variable);
format |
การใช้รหัสควบคุมรูปแบบ เพื่อกำหนดชนิดของข้อมูลที่จะรับเข้ามาจากคีย์บอร์ด โดยรหัสควบคุมรูปแบบใช้ชุดเดียวกับคำสั่ง printf()
|
variable |
ตัวแปรที่จะใช้เก็บค่าข้อมูลที่รับเข้ามาจากคีย์บอร์ด โดยชนิดของตัวแปรจะต้องตรงกับรหัสควบคุมรูปแบบที่กำหนดไว้ นอกจากนี้หน้าชื่อของตัวแปรจะต้องนำหน้าด้วยเครื่องหมาย & ยกเว้นตัวแปรสตริง สำหรับเก็บข้อความเท่านั้นที่ไม่ต้องนำหน้าด้วยเครื่องหมาย &
|
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง scanf() เพื่อรับข้อมูลจากคีย์บอร์ด
int speed; | สร้างตัวแปรชนิด int สำหรับเก็บค่าตัวเลขจำนวนเต็ม |
printf(“Enter wind speef : “); | แสดงข้อความให้กรอกค่าความเร็วลมเป็นจำนวนเต็ม |
scanf(“%d”,&speed); | รับค่าความเร็วลมเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร speed |
char answer; | สร้างตัวแปรชนิด char สำหรับเก็บอักขระ |
printf(“Enter Figure (Y : N) : “) | แสดงข้อความให้ป้อนอักขระ Y หรือ N |
scanf(“%c”,&answer | รับอักขระเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร answer |
char name[10]; | สร้างตัวแปรสตริงสำหรับเก็บข้อความ |
printf(“Enter your name = “); | แสดงข้อความให้ป้อนชื่อ |
scanf(“%s”,name | รับชื่อเข้ามาเก็บไว้ในตัวแปร name สังเกตจะไม่ใส่เครื่องหมาย & ตัวแปรชนิดข้อความ |
#include <stdio.h> ผลลัพธ์โปรแกรม Enter The Length is : 15 |
การเขียนโปรแกรมคำนวณ
เราสามารถคำนวณหาผลลัพทธ์ของนิพจน์คณิตศาสตร์ด้วยการเขียนโปรแกรมภาษาซี ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นการแสดงลำดับการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ของนิพจน์ต่าง ๆ
#include <stdio.h> ผลลัพธ์โปรแกรม (3+4)*5=35 |
ตัวอย่างโปรแกรมคำนวณหาผลลัพธ์จากการหาร
#include <stdio.h> ผลลัพธ์โปรแกรม 20/6=3 |